การพัฒนาการอ่านภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านตีความ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ ปีการศึกษา 2560
นราธิป คำสุวรรณ
ครู
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย
ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13
1.ชื่อเรื่อง การพัฒนาการอ่านภาษาไทย
โดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านตีความ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ ปีการศึกษา 2560
2. ความเป็นมา และความสำคัญของปัญหา
การอ่านเป็นทักษะกระบวนการเรียนรู้พื้นฐานที่สำคัญ
ผู้เรียนสามารถ เกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
ผู้อ่านจึงต้องมีความรู้และทักษะการอ่านเพื่อให้เกิดความเข้าใจในเรื่องที่อ่านได้อย่างลึกซึ้ง
การอ่านมีจุดมุ่งหมายหลายประการ ตามลำดับขั้นความยากง่ายสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
๒ ผู้เรียนต้องมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการอ่านตามจุดประสงค์
ซึ่งจะช่วยให้เกิดทักษะการเรียนรู้ที่รวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพ
จากการจัดกระบวนการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 35 คน
โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ ปีการศึกษา 2560
พบว่ามีนักเรียนจำนวน 10 คน มีปัญหาด้านการอ่านตีความ
ทำให้ส่งผลถึงการเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้น ๆ
ครูผู้สอนจึงจัดทำแบบฝึกทักษะการอ่านตีความภาษาไทยขึ้น
จากนั้นนำแบบฝึกมาพัฒนาการอ่านตีความของนักเรียน โดยใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและนอกเวลาเรียน
3.วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อพัฒนาการอ่านภาษาไทย
โดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านตีความ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2/1 โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์
4. วิธีดำเนินการวิจัย
4.1 ประชากรกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2/1 จำนวน 35 คน โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ ปีการศึกษา 2560
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2/1 โดยดำเนินการสุ่มโดยการเลือกแบบเจาะจง จากนักเรียนที่คะแนนทดสอบการอ่านตีความ รายวิชาภาษาไทย
ต่ำกว่าร้อยละ 40 จำนวน 10 คน
4.2 เครื่องมือหรือนวัตกรรมที่ใช้
1) ชุดที่
1 แบบฝึกหลักการอ่านตีความ
2) ชุดที่
2 แบบฝึกการตีความจากการอ่านข้อความ
3) ชุดที่
3 แบบฝึกการตีความจากการอ่านข่าว
4) ชุดที่
4 แบบฝึกการตีความจากการอ่านเนื้อเพลง
5) ชุดที่
5 แบบฝึกการตีความจากการอ่านนิทาน
6) ชุดที่ 6
แบบฝึกการตีความจากการคำและแนวคิด
เกณฑ์การแปลความหมายของคะแนน
ของแบบทดสอบการอ่านตีความ
คะแนน 15 – 20 คะแนน อยู่ในระดับ ดี
คะแนน 10 – 14 คะแนน อยู่ในระดับ พอใช้
คะแนน 0 - 9 คะแนน อยู่ในระดับ ต้องปรับปรุง
เกณฑ์การแปลความหมายของคะแนน
ของแบบฝึกการอ่านตีความทั้ง 6 ชุด
คะแนน 15 – 20 คะแนน อยู่ในระดับ ดี
คะแนน 10 – 14 คะแนน อยู่ในระดับ พอใช้
คะแนน 0 - 9 คะแนน อยู่ในระดับ ต้องปรับปรุง
4.3 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1)
ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแบบฝึกการอ่านตีความ
2)
ดำเนินการสร้างแบบฝึกการอ่านตีความ
3)
นำแบบฝึกไปตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญ
4)
นำแบบฝึกมาแก้ไข และปรับปรุงให้ถูกต้องและสมบูรณ์
5)
นำแบบฝึกมาใช้กับนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านตีความ
4.4 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ทำอย่างไรในการได้มาของข้อมูล
1)
นำแบบทดสอบการอ่านตีความ ไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง เพื่อเก็บข้อมูลก่อนการพัฒนา
2)
นำแบบฝึกการอ่านตีความ มาให้นักเรียนฝึกอ่านและปฏิบัติ
3)
นำแบบทดสอบการอ่านตีความมาทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างอีกครั้งเพื่อเก็บข้อมูลหลังการพัฒนา
4.5 วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
นำผลที่ได้จากการทดสอบการอ่านตีความก่อนการพัฒนา
และหลังการพัฒนามาหาความถี่ ค่า t ค่าเฉลี่ย
() และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(S.D.)
5. ขอบเขตของการวิจัย
5.1 ตัวแปรที่ศึกษา
1) ตัวแปรอิสระ คือ
แบบฝึกการอ่านตีความ จำนวน 6 ชุด
2) ตัวแปรตาม คือ
ความสามารถของนักเรียนในการอ่านตีความได้ถูกต้อง
5.2 ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย
ระหว่างวันที่ ธันวาคม พ.ศ. 2560 – กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
5.3 เนื้อหา
- การอ่านตีความร้อยแก้ว
- การอ่านตีความร้อยกรอง
5.4 ประโยชน์ของการวิจัย
1) นักเรียนมีความเข้าใจและสนใจเรียนดีขึ้น
2) นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน
3) นักเรียนสามารถอ่านตีความได้ถูกต้องดีขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูล
1. นำคำตอบจากแบบทดสอบของนักเรียนมาตรวจให้คะแนน
โดยถือเกณฑ์ ตอบถูกให้ 1 คะแนน
ตอบผิดให้ 0 คะแนน และนำผลคะแนนจากการทดสอบก่อนการประยุกต์ใช้ทฤษฏีการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
แบบฝึก (Pre-test) และผลคะแนนจากการสอบหลังการใช้แบบฝึก
(Post-test) มาเปรียบเทียบความต่างของ
คะแนน ทดสอบด้วยค่า t-test
ตารางที่ 1 แสดงผลแบบฝึกหลักการอ่านตีความ ชุดที่ 1
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
6
|
15
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
8
|
13
|
พอใช้
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
5
|
12
|
พอใช้
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
5
|
11
|
พอใช้
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
7
|
13
|
ดี
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
8
|
13
|
พอใช้
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
8
|
15
|
ดี
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
9
|
15
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
9
|
12
|
พอใช้
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
8
|
12
|
พอใช้
|
ตารางที่ 2 แสดงผลแบบฝึกการตีความจากการอ่านข้อความ ชุดที่ 2
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
8
|
16
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
7
|
11
|
พอใช้
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
8
|
17
|
ดี
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
7
|
10
|
พอใช้
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
8
|
12
|
พอใช้
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
8
|
15
|
ดี
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
9
|
12
|
พอใช้
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
8
|
16
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
9
|
11
|
พอใช้
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
10
|
12
|
พอใช้
|
ตารางที่ 3 แสดงผลแบบฝึกการตีความจากการอ่านข่าว ชุดที่ 3
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
9
|
18
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
11
|
14
|
พอใช้
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
8
|
15
|
ดี
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
10
|
14
|
พอใช้
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
8
|
13
|
พอใช้
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
9
|
16
|
ดี
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
9
|
17
|
ดี
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
8
|
15
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
10
|
14
|
พอใช้
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
9
|
15
|
ดี
|
ตารางที่ 4 แสดงผลแบบฝึกการตีความจากการอ่านเนื้อเพลง ชุดที่ 4
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
9
|
16
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
10
|
14
|
พอใช้
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
8
|
16
|
ดี
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
10
|
14
|
พอใช้
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
8
|
13
|
พอใช้
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
9
|
16
|
ดี
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
9
|
14
|
พอใช้
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
8
|
16
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
10
|
14
|
พอใช้
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
9
|
16
|
ดี
|
ตารางที่ 5 แสดงผลแบบฝึกการตีความจากการอ่านนิทาน ชุดที่ 5
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
4
|
17
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
5
|
15
|
ดี
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
6
|
17
|
ดี
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
3
|
15
|
ดี
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
5
|
15
|
ดี
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
4
|
15
|
ดี
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
4
|
16
|
ดี
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
4
|
16
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
5
|
16
|
ดี
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
4
|
12
|
พอใช้
|
ตารางที่ 6 แสดงผลแบบฝึกการตีความจากการคำและแนวคิด ชุดที่ 6
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ผลการอ่านตีความ
|
||
ครั้งที่
1
|
ครั้งที่
2
|
สรุป
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
5
|
18
|
ดี
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
5
|
15
|
ดี
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
6
|
16
|
ดี
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
4
|
16
|
ดี
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
5
|
17
|
ดี
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
4
|
17
|
ดี
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
5
|
17
|
ดี
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
5
|
18
|
ดี
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
5
|
17
|
ดี
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
4
|
16
|
ดี
|
ตารางที่ 7 แสดงคะแนนการทดสอบการอ่านตีความ ก่อนและหลังการพัฒนา
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
คะแนนการทดสอบการอ่านตีความ
|
|
ก่อนพัฒนา
|
หลังพัฒนา
|
||
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
9
|
16
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
7
|
15
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
10
|
18
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
7
|
15
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
7
|
15
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
8
|
14
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
9
|
16
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
11
|
17
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
9
|
15
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
10
|
18
|
จากการพัฒนาการอ่านตีความ
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านตีความภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1
โรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ จำนวน 6 ชุด ซึ่งจัดการทดสอบก่อนการเรียน
(Pre-test) จำนวน 20 ข้อ และทดสอบหลังการเรียน
(Post-test) จำนวน 20 ข้อ นำผลคะแนนจากการทดสอบก่อนการเรียน
(Pre-test) และผลคะแนนจากการทดสอบหลังการเรียน (Post-test) มาเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนน ทดสอบด้วยค่า t-test (ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ. 2540 : 240 – 249) ดังในตารางที่ 8
ตารางที่
8 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนการอ่านตีความ
ที่
|
ชื่อ - สกุล
|
ก่อน
|
หลัง
|
D
|
D2
|
1
|
เด็กชายปวริชร์ พันธ์หญ้า
|
8
|
16
|
8
|
54
|
2
|
เด็กชายปวรุต ช่างเรือ
|
6
|
15
|
9
|
81
|
3
|
เด็กชายรุสซีดาน นาดี
|
9
|
18
|
9
|
81
|
4
|
เด็กชายวสัตติ์ กะลันตัน
|
6
|
15
|
9
|
81
|
5
|
เด็กชายสรรเพชร เพ็ชรน้อย
|
6
|
15
|
9
|
81
|
6
|
เด็กชายอภิวิชญ์ สุภาพ
|
7
|
14
|
7
|
49
|
7
|
เด็กหญิงกมลวรรณ พยายาม
|
8
|
16
|
8
|
54
|
8
|
เด็กหญิงฐิติพร รักพริ้ม
|
10
|
17
|
7
|
49
|
9
|
เด็กหญิงภาวินี พรหมดนตรี
|
8
|
15
|
7
|
49
|
10
|
เด็กหญิงสุวรรณธิดา พ่อค้า
|
9
|
18
|
9
|
81
|
รวม
|
77
|
159
|
82
|
660
|
t =
เมื่อ t แทน ค่าสถิติที่ใช้ในการพิจารณา t
= distribution
D แทน ผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนใช้แบบฝึกและ หลัง
การใช้แบบฝึก
ΣD แทน ผลรวมของผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนใช้แบบ
ฝึกและหลังใช้แบบฝึก
ΣD2 แทน ผลรวมของผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนใช้
|
แทน ผลรวมของผลต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนใช้
แบบฝึกและหลังใช้ แบบฝึกยกกำลังสอง
N แทน จำนวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่าง
ตารางที่ 9 แสดงผลการเปรียบเทียบคะแนนการอ่านตีความ
การทดสอบสอบ
|
N
|
ΣD
|
ΣD2
|
t
|
ก่อนพัฒนา
หลังพัฒนา
|
10
|
82
|
660
|
28.21
|
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.01 ( ∝ =
.๐1 , df = 9 )
**
= มีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01
ตารางที่
10 แสดงข้อมูลการพัฒนาการอ่านตีความ ของนักเรียนชั้น ม.2/1
ที่
|
ก่อนพัฒนา
(20)
|
หลังพัฒนา (20)
|
||
X1
|
x12
|
X2
|
x22
|
|
1
|
8
|
64
|
16
|
256
|
2
|
6
|
36
|
15
|
225
|
3
|
9
|
81
|
18
|
324
|
4
|
6
|
36
|
15
|
225
|
5
|
6
|
36
|
15
|
225
|
6
|
7
|
49
|
14
|
196
|
7
|
8
|
64
|
16
|
256
|
8
|
10
|
100
|
17
|
289
|
9
|
8
|
64
|
15
|
225
|
10
|
9
|
81
|
18
|
324
|
|
X =
เมื่อ X แทน ค่าเฉลี่ย
Σx แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
N แทน จำนวนนักเรียนในกลุ่มทดลอง
ตารางที่ 11 แสดงค่าเฉลี่ย ( x ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(S.D.)
การทดสอบสอบ
|
N
|
x
|
S.D.
|
ก่อนพัฒนา
|
10
|
7.70
|
1.41
|
หลังพัฒนา
|
10
|
15.90
|
1.37
|
จากการวิเคราะห์ข้อมูลหลังการพัฒนาพบว่า
คะแนนทดสอบก่อนพัฒนาและหลังพัฒนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
(t-test = 28.21) แสดงว่าโดยภาพรวมแล้วนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1
มีการเรียนรู้หลังการพัฒนาสูงขึ้นมากกว่าก่อนพัฒนา โดยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
7.70 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(S.D.) 1.41 และระดับคุณภาพการเรียนรู้เดิมนั้นต้องได้รับการปรับปรุง
ซึ่งผู้สอนได้ปรับปรุงพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านตีความ
เมื่อเสร็จการพัฒนาโดยใช้แบบทดสอบชุดเดิม พบว่า ผลสัมฤทธิ์หลังการพัฒนามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
15.90 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 1.37
แสดงให้เห็นว่า หลังการพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านตีความ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2/1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงในระดับที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
สรุปผลการวิจัย
หลังจากที่ได้อ่านแบบฝึกทักษะการอ่านตีความ
จำนวน 6 ชุด ฝึกอ่านชุดละ 2 ครั้ง ผลปรากฏว่า มีนักเรียนที่สามารถอ่านตีความได้ถูกต้อง อยู่ในระดับ ดี
มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งในแบบฝึกทักษะการอ่านตีความชุดที่ 6 อยู่ในระดับ ดี จำนวน 10 คน
อภิปรายผลการวิจัย
ครูทุกท่านจะต้องร่วมมือกันในการฝึกฝนนักเรียนให้อ่านตีความให้ถูกต้อง
ชัดเจน และต้องให้แก้ไขทันทีที่พบว่านักเรียนอ่านตีความไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนได้ฝึกอ่านตีความอยู่เสมอจนเกิดเป็นความเคยชินและและความตระหนักคิดติดตัวตลอดไป
ข้อเสนอแนะ
ครูที่สอนวิชาภาษาไทยทุกชั้นเรียนควรให้นักเรียนได้ฝึกการอ่านตีความอยู่เสมอ
ทั้งในรูปแบบของแบบฝึกและในรูปแบบของแบบทดสอบ
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับเป็นกฎหมาย.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
(2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
วิชาการ, กรม กระทรวงศึกษาธิการ.
(2546). การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตร
การศึกษาข้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2544.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ.
(2540). สถิติวิทยาทางการศึกษา.
พิมพ์ครั้งที่ 4.
กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น