ใบความรู้ที่ ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
*********************************************************************
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
โคลงภาพพระสุริโยทัยขาดคอช้าง
บทที่ ๑
ถอดความได้ว่า พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์ของพม่า ยกกองทัพที่มีแสนยานุภาพ รงบรวมไพร่พลทั้งพม่าและมอญประมาณ สามแสนคน มายังอยุธยาและวางค่ายไว้ใกล้เมือง
บทที่ ๒
ถอดความได้ว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระเจ้าแผ่นดินสยาม จึงนำกำลังพลออกตั้งค่ายเตรียมรับศึกและดูกำลังฝ่ายตรงข้าม แล้วนำกำลังพลออกมากลางสนามรบ
บทที่ ๓
ถอดความได้ว่า สมเด็จพระสุริโยทัย พระมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ได้แต่งองค์ทรงเครื่องเยี่ยงชาย เป็นชุดออกศึกเฉกเช่นมหาอุปราช แล้วทรงช้างเข้าร่วมรบ
บทที่ ๔
ถอดความได้ว่า กองทัพหน้าของทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ช้างทรงของพระเจ้าแปรได้ชนช้างกับพระมหาจักรพรรดิ พระมหาจักรพรรดิเสียทีเพลี่ยงพล้ำพระเจ้าแปร
บทที่ ๕
ถอดความได้ว่า องค์อัครมเหสีมีน้ำพระทัยกอรปด้วยความกตัญญูกตเวทียิ่ง ทรงวิตกว่าพระสวามีจะสิ้นพระชนม์จึงทรงขับช้างพระที่นั่งเข้าต่อสู้กับศัตรู
บทที่ ๖
ถอดความได้ว่า พระเจ้าแปรฟาดพระแสงของ้าวใส่พระอุระขาดสะพายแหล่ง จนสิ้นพระชนม์ พระราชโอรสจึงทรงกันนำพระศพกลับคืนสู่กรุงศรีอยุธยา แม้นพระองค์จะสิ้นพระชนม์ลงแล้วแต่ยังไม่สิ้นผู้สรรเสริญ
โคลงภาพพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต
บทที่ ๑
ถอดความได้ว่า พระเจ้าสรรเพชญ์ที่แปดกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จประพาสทรงตกปลาที่ปากน้ำโดยล่องเรือพระที่นั่งเอกไชยมาถึงตำบลโคกขามลำคลองที่คดเคี้ยวทำให้หัวเรือพระที่นั่งขัดเข้ากับกิ่งไม้หักลง
บทที่ ๒
ถอดความได้ว่า พันท้ายนรสิงห์ตกประหม่าจนขาดสติคิดทรงโดดลงจากเรือทูลขอพระราชทานโทษประหารชีวิตตามความผิดในกฎมนเทียรบาล ให้ตัดศีรษะตั้งคู่กับโขนเรือไว้ที่ศาลเพียงตา
บทที่ ๓
ถอดความได้ว่า พระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานอภัยโทษให้แต่พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอมรับ จะยอมตายแม้นพระองค์จะโปรดให้ปั้นรูปพันท้ายนรสิงห์แล้วฟันรูปปั้นแทนแต่พันท้ายนรสิงห์ทัดทานว่าจะผิดพระราชประเพณี
บทที่ ๔
ถอดความได้ว่า สมเด็จพระเจ้าเสือเมื่อได้ฟังเหตุผลของพันท้ายนรสิงห์เช่นนั้นจึง จำพระทัยรับสั่งให้เพชฌฆาตประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ แล้วนำโขนเรือกับศีรษะของพันท้ายนรสิงห์ ไปตั้งบวง
สรวงไว้ที่ศาลเพียงตาเพื่อเป็นการประกาศคุณความดีของพันท้ายนรสิงห์ให้คนได้เห็นเป็นแบบอย่างต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น